นฤมลโชว์วิสัยทัศน์บนเวที SPIEF

141 จำนวนผู้เข้าชม  | 

นฤมลโชว์วิสัยทัศน์บนเวที SPIEF

“นฤมล”โชว์วิสัยทัศน์บนเวที SPIEF ย้ำ ไทยขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เดินหน้าผลักดันให้ไทย “เป็นครัวสีเขียวของโลกและศูนย์กลางเศรษฐกิจชีวภาพของเอเชีย


วันนี้ (6 มิถุนายน 2567) เวลา 11.00 น. (เวลาตามท้องถิ่น นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สหพันธรัฐรัสเซีย) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบหมายศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย เข้าร่วมการประชุม St. Petersburg International Economic Forum (SPIEF) ครั้งที่ 27 ซึ่งมีผู้แทนกว่า 130 ประเทศ เข้าร่วมประชุม ณ ศูนย์การประชุม Ekspoforum นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สหพันธรัฐรัสเซีย

โอกาสนี้ ผู้แทนการค้าไทยได้ร่วมอภิปรายในการประชุม Ecological Horizons 2030: Investing in Circular Economy ภายใต้หัวข้อ “Investing in Circular Economy” ตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยได้นำแนวคิดโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) มาใช้เพื่อขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งโมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นการผสมผสานแนวทางการพัฒนาที่ครอบคลุมทั้งด้านสังคมและการบูรณาการเศรษฐกิจ โดยปรับเปลี่ยนและประยุกต์ให้สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่นของไทย เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร เปลี่ยนขยะให้เป็นความมั่งคั่ง ฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ผูัแทนการค้าไทย เน้นย้ำ ประเทศไทยมุ่งที่จะส่งเสริมการพัฒนาที่สมดุลและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนใน 5 ด้านที่ไทยโดดเด่นและมีศักยภาพ ได้แก่ (1) อาหารและเกษตรกรรม (2) บริการทางการแพทย์และสุขภาพ (3) พลังงานชีวภาพ วัสดุชีวภาพ และชีวเคมี (4) การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และ (5) เศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจะสอดคล้องกับความพยายามของไทยที่จะ “เป็นครัวสีเขียวของโลกและศูนย์กลางเศรษฐกิจชีวภาพของเอเชีย”

สำหรับเศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจชีวภาพ และเศรษฐกิจสีเขียว ผู้แทนการค้าไทยระบุประเทศไทย เน้นหลักการในการบริหารจัดการของเสียและมลพิษ และการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์และวัสดุ รวมถึงการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม โดยโมเดลเศรษฐกิจ BCG จะช่วยปรับปรุงระบบการผลิตและการใช้ผลิตภัณฑ์ ในขณะเดียวกันจะสร้างมูลค่าในทุกระดับของกระบวนการผลิตและการบริโภค เพื่อให้บริหารจัดการทรัพยากรและนำมาใช้ได้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุด

“รัฐบาลไทยพร้อมส่งเสริมให้ธุรกิจและ SMEs พัฒนารูปแบบการรีไซเคิลจากขยะเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม รวมถึงนำนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและบรรจุภัณฑ์แบบหมุนเวียนมาใช้ในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งต้องมีความยืดหยุ่นเพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
การสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนและสร้างเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการจัดการขยะจะนำไปสู่โลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นได้อย่างไร


ทั้งนี้ ภาคส่วนสาธารณะจำเป็นต้องให้ความรู้แก่ประชาชน ชักจูงให้ปรับเปลี่ยนทัศนคติและวิถีชีวิตเพื่อให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น และส่งเสริมความสมดุลระหว่างกิจกรรมของมนุษย์และธรรมชาติ ขณะเดียวกันการบังคับใช้กฎหมายยังคงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมของประชาชนให้ไปในทิศทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย และภาคเอกชนสามารถนำมาตรการปฏิรูปขยะมาใช้ในสายการผลิตโดยใช้แนวคิดขยะเป็นศูนย์ รีไซเคิล และนำกลับมาใช้ใหม่ ทั้งภาครัฐและเอกชนจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป“ ผู้แทนการค้า ยืนยัน

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้