102 จำนวนผู้เข้าชม |
“กลุ่มอมตะ” เปิดบ้านกรมดิษฐ์ ขอบคุณสื่อมวลชน ธีม “Outlook 2024" สะท้อนทิศทาง ปี 2567 รับปัจจัยบวก ด้านเศรษฐกิจ การลงทุน ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจ ภายใต้หลัก 'All Win' เน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ คาดการณ์ยอดขายที่ดิน ปี 2567 โตต่อเนื่องรับอานิสงส์ นักลงทุนย้ายฐาน ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยเฉพาะกลุ่มจีนเร่งสร้างฐานผลิตใหม่ในไทย
นายโอซามู ซูโด รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัทอมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (AMATA) เปิดเผยว่า ในงานกิจกรรมขอบคุณสื่อมวลชน ภายใต้ธีม “ Outlook 2024" เพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารและสื่อมวลชน พร้อมสรุปทิศทางและคาดการณ์แนวโน้มปี 2567 สะท้อนผลลัพธ์เชิงบวกที่ได้รับแรงหนุนจากบรรยากาศการลงทุนที่เอื้ออำนวย และมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจสู่ความเป็นเลิศด้านความยั่งยืนมากขึ้น สอดคล้องกับปรัชญาหลักของอมตะที่ว่า 'All Win' ซึ่งให้ความสำคัญกับความสำเร็จร่วมกันทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ
นายอาซามูกล่าวถึง แนวโน้มการขายที่ดินเพื่อรองรับการลงทุนในปี 2567 ว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวน การวางเป้ายอดขายที่ดินในปี 2567 เนื่องจากบริษัทยังอยู่ระหว่างรอข้อสรุปการปิดการขายสัญญาซื้อที่ดินของลูกค้าคาดว่ายอดขายที่ดินในปีนี้ น่าจะใกล้เคียงหรือมากกว่าปีที่ผ่านมาสอดรับกับทิศทางการเติบโตเศรษฐกิจในปัจจุบัน ในขณะที่สถานการณ์การเมืองทำให้นักลงทุนให้ความสนใจในการเข้ามาลงทุน เพื่อผลิตสินค้าส่งออก ดังนั้นปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนจึงขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกที่มีความสำคัญมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การขายที่ดินในปีก่อนที่มีความโดดเด่นในโครงการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม สอดรับกับทิศทางความต้องการของนักลงทุนและแนวโน้มการลงทุนที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคลัสเตอร์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง สอดรับกับนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นับเป็นทิศทางและปัจจัยบวกในการส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่องในขณะที่รัฐบาลของประเทศเวียดนามเองก็ให้การสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุนมากขึ้น
แนวโน้มการลงทุนในช่วงปีก่อนจนถึงปัจจุบัน มีลูกค้าให้ความสนใจซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท เพื่อลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตอย่างต่อเนื่อง และได้เข้ามาสำรวจที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของอมตะหลายราย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการจากจีนที่มีความต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมที่กลุ่มนักลงทุนจีนให้ความสนใจเข้ามาสำรวจที่ดิน คือ นิคมฯ ไทย-จีน ที่ตั้งอยู่ในอมตะซิตี้ ระยอง ทำให้แนวโน้มความต้องการซื้อที่ดินในจังหวัดระยองจากผู้ประกอบการจีนสูงอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ผู้ผลิตรถยนต์ และผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ในปี 2567 คาดว่าสัดส่วนลูกค้าจีนในระยองจะเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จากการที่ผู้ประกอบการในประเทศจีนมีการย้ายฐานเข้ามาประกอบการตั้งโรงงานในไทยมากขึ้น สาเหตุมาจากปัจจัยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งประเทศกลุ่มอาเซียนถือเป็นเป้าหมายสำคัญในการย้ายฐานการผลิต ซึ่งไทยมีความพร้อมที่จะรองรับการลงทุนจากมาตรการสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล
นางสาวเด่นดาว โกมลเมศ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน AMATA กล่าวว่า ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการเงินมุ่งเน้นไปที่การเติบโตของรายได้ รวมถึงการจัดการด้านต้นทุน โดยวางแนวทางการบริหารจัดการด้านค่าใช้จ่าย การแสวงหาโอกาสการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำ พร้อมการบริหารกระแสเงินสดให้มีความเหมาะสม เพื่อรักษาความยืดหยุ่นในการดำเนินงานให้สอดรับกับสภาวการณ์การเปลี่ยนแปลงของตลาดเงินและตลาดทุนเพื่อให้บริษัทเติบโตต่อเนื่อง รวมทั้ง บริษัทยังมีแผนการระดมทุนโดยนำบริษัท อมตะ ยู จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการให้บริการระบบสาธารณูปโภคและการให้บริการต่างๆ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในโอกาสต่อไปด้วย