112 จำนวนผู้เข้าชม |
ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมรายงานความคืบหน้าการนำเข้า - ส่งออกสินค้าทางรถไฟไทยไปยังจีนและกัมพูชา และการนำเสนอแนวทางการจัดตั้งหน่วยงาน One Stop Service ณ จังหวัดสระแก้วและจังหวัดหนองคาย ร่วมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยนางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ รองอธิบดีกรมศุลกากรและประธานคณะทำงานศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความสะดวกด้านการค้าชายแดนและระบบขนส่ง นายไกรยสิทธิ์ อินทรพาณิชย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท. และรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล มัลติโมดัล โลจิสติกส์ จำกัด (GML) รวมถึง นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ได้ข้อสรุปร่วมกัน ดังนี้
1. ร่วมกันเป็นทีมไทยแลนด์เพื่อผลักดันนโยบายการขนส่งทางรางของรัฐบาลเชื่อมต่อกับเส้นทาง Belt and Road Initiative (BRI) ของจีน พัฒนาให้เป็นทางเลือกในการขนส่งสินค้าผ่านแดนจากไทยยังประเทศจีน และประเทศในยุโรป เพื่อขยายตลาดส่งออกให้เกษตรกรและผู้ประกอบการไทยศุลกากรจะเร่งดำเนินการด้านพิธีการทางศุลกากรให้การขนส่งทางรางนี้ไร้รอยต่อมากที่สุด ส่วน อตก และ GML จะร่วมกันดำเนินการด้านการตลาดในต่างประเทศ
2. ใช้ประโยชน์จาก Mutual Recognition Agreement ระหว่างกระทรวงเกษตรฯ ของจีนและไทยที่ตกลงให้สามารถส่งเจ้าหน้าที่ของแต่ละฝ่ายเข้ามาตรวจสอบสินค้าเกษตรที่จะส่งออกระหว่างสองประเทศ เพื่อความสะดวกในการส่งออกข้ามพรมแดนระหว่างกัน
3. จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เส้นทางขนส่งทางราง เพื่อเชิญชวนผู้ประกอบการเข้ามาใช้เส้นทางการขนส่งนี้ และพัฒนาเส้นทางให้ประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์
4. กำหนดมาตรการป้องกันสินค้าของตู้รถไฟขาเข้า ไม่ให้มีสินค้าที่จะเข้ามาส่งผลกระทบเผยเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย
“นอกจากการตลาดนำ นวัตกรรมเสริมแล้ว โครงสร้างพื้นฐานด้านระบบโลจิสติกส์ก็เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เกิดรายได้เพิ่มในที่สุด ซึ่งคือเป้าหมายการพัฒนาเส้นทางขนส่งทางรางให้เป็นทางเลือกในการขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ สำหรับการค้าขายผ่านแดนไปจีน และเชื่อมต่อเข้ากับเส้นทาง BRI ไปยังประเทศในยุโรป เพื่อช่วยขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอื่นของไทย เพิ่มรายได้ให้พี่น้องเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยได้อย่างยั่งยืน“ ผู้แทนการค้าย้ำ