กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม เปิดท่าเรือท่าช้าง - สาทร “SMART PIER SMART CONNECTION” โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้บริหา

266 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม เปิดท่าเรือท่าช้าง - สาทร “SMART PIER SMART CONNECTION” โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้บริหา

จากนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่า ที่มีภารกิจหน้าที่ในการกำกับ ดูแลรักษาความปลอดภัยทางน้ำ ควบคู่ไปกับการพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Pier) ให้พร้อมบริการ และมีมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยกระดับความสามารถให้ทัดเทียมนานาประเทศในเรื่องของการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย เป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตามหลักธรรมาภิบาล บูรณาการเพื่อผลักดันให้เกิดเป็นพลังร่วมกัน



กรมเจ้าท่า ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมทางน้ำ ให้เกิดความสะดวก ปลอดภัย เชื่อมโยงโครงข่าย ล้อ ราง เรือ อย่างไร้รอยต่อ ได้ดำเนินงานตามแผนงานโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการขนส่งทางน้ำ เพื่อตอบสนองเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ และยุทธศาสตร์กระทรวงคมนาคม มาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนพัฒนายกระดับท่าเรือโดยสาร (Smart Pier) ในแม่น้ำเจ้าพระยา พ.ศ.2562-2567 ที่จะพัฒนายกระดับท่าเรือให้เป็นสถานีเรือทั้งในส่วนของท่าเรือ ตัวเรือ ตลอดจนพัฒนาระบบการให้บริการรองรับชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) เชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นทั้ง ล้อ ราง เรือ เพื่อสร้างทางเลือกในการเดินทางของประชาชน โดยท่าเรือมีอัตลักษณ์ที่สวยงาม เกิดเป็นแลนด์มาร์ค ส่งเสริม การท่องเที่ยวทางน้ำ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ ในการควบคุม และบริหารจัดการบนเรือและท่าเรือ สำหรับเส้นทางเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีต้นทางจากท่าเรือสาทร กรุงเทพมหานคร ไปยังปลายทางที่ท่าเรือปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

กรมเจ้าท่า ดำเนินการตามแผนพัฒนาจำนวน 29 ท่าเรือ ปีงบประมาณ 2562-2563 แล้วเสร็จ จำนวน 3 ท่าเรือ ได้แก่ท่าเรือกรมเจ้าท่า ท่าเรือสะพานพุทธ และท่าเรือนนทบุรี ปัจจุบัน ได้ก่อสร้างและปรับปรุงท่าเรือแล้วเสร็จเพิ่มขึ้นอีก จำนวน 2 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือท่าช้าง แล้วเสร็จเมื่อเดือนธันวาคม 2564 และท่าเรือสาทร แล้วเสร็จเมื่อเดือนมีนาคม 2565 อยู่ในแผนที่จะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2565 จำนวน 6 ท่าเรือ ขอรับจัดสรรงบประมาณปี 2566 จำนวน 8 ท่าเรือ มีแผนของบประมาณปี 2567 จำนวน 10 ท่าเรือ และมีแผนติดตั้งระบบให้บริการบนท่าเรือทั้งหมด 29 ท่าเรือ ในปี 2566-2567 ในส่วนของตัวเรือ กรมเจ้าท่าร่วมกับผู้ประกอบการเรือโดยสารปรับเปลี่ยนรูปแบบเรือ เป็นแบบพลังงานไฟฟ้าสำหรับให้บริการ เป็นการช่วยลดมลพิษทางน้ำและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม



สำหรับการปรับปรุงท่าเรือทั้ง 2 ท่า ได้แก่ ท่าเรือท่าช้าง มีขนาดพื้นที่ 1,800 ตารางเมตร แบ่งพื้นที่ การปรับปรุงออกเป็น 1. อาคารศาลาพักคอยขนาดพื้นที่ 320 ตารางเมตร จำนวน 2 หลัง 2. โป๊ะเทียบเรือ ขนาด 5 x 10 เมตร พร้อมสะพานปรับระดับ จำนวน 2 โป๊ะ 3. โป๊ะเทียบเรือขนาด 6 x 12 เมตร พร้อมสะพานปรับระดับ จำนวน 4 โป๊ะ ภายหลังการเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ ท่าเรือท่าช้าง สามารถรองรับนักท่องเที่ยวและประชาชนที่เดินทางสัญจรทางน้ำได้อย่างสะดวกสบาย และปลอดภัยตามมาตรฐานที่กรมเจ้าท่ากำหนดไว้



ท่าเรือสาทร เป็นท่าเรือที่มีทั้งนักท่องเที่ยวและประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมาก ก่อนทำการปรับปรุง เดิมท่าเรือสาทรมีสภาพชำรุด ทรุดโทรมตามระยะเวลาและการใช้งาน พื้นที่ใช้สอยยังไม่เป็นสัดส่วน ทำให้ผู้โดยสารที่มาใช้บริการมีความแออัดเบียดเสียดบนท่าเรือ ซึ่งอัตราผู้โดยสารที่ใช้บริการท่าเรือสาทรในปี 2563 เฉลี่ยต่อวัน 15,236 คน กรมเจ้าท่าเล็งเห็นว่าอาจก่อให้เกิดความไม่สะดวกและความปลอดภัยต่อผู้โดยสาร จึงได้ทำการปรับปรุงท่าเรือฯ ดังนี้ ปรับปรุงพื้นที่ท่าเรือขนาด 1,364 ตารางเมตร โป๊ะขนาด 6 x 12 เมตร จำนวน 4 โป๊ะ โป๊ะขนาด 9 x 17 เมตร จำนวน 1 โป๊ะ ขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างทางลาดด้านหน้าท่าเรือและปรับปรุงโป๊ะขนาด 6 x 12 เมตร พร้อมสะพานปรับระดับ จำนวน 2 โป๊ะ เพื่อให้สะดวกและสามารถรองรับการเดินทางทางน้ำของประชาชนให้มีประสิทธิภาพและเกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ การเปิดท่าเรือท่าช้าง และท่าเรือสาทร อย่างเป็นทางการ ในครั้งนี้ จะสอดรับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ที่จะพัฒนาการให้บริการท่าเรือโดยสารสาธารณะในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ให้มีความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดในการเดินทาง ตลอดจนสามารถเชื่อมโยงกับระบบขนส่งรูปแบบอื่น (ล้อ-ราง-เรือ) ได้อย่างไร้รอยต่อ ช่วยลดปัญหาการคับคั่งของการจราจรทางบก ลดระยะเวลาในการเดินทาง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำและสร้างภาพลักษณ์การเดินทางของประเทศต่อไป โดยจะเรียนเชิญ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธาน ในพิธีเปิดในครั้งนี้ พร้อมจัดนิทรรศการ แสดงเส้นทางการเดินเรือ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ออกมาเป็นรูปแบบ Art Gallery ที่เชื่อมโยงวิถีชีวิต วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ รวมถึงวิวัฒนาการของการคมนาคมทางน้ำที่ผูกพันกับคนไทย โดยภายในงานเปิดท่าเรือ ท่าช้าง และ ท่าเรือสาทร จะจัดให้มีการแสดงนิทรรศการที่สื่อถึงความเป็น Center Pier ของท่าสาทรที่เชื่อมโยง การเดินทางของประชาชน ทั้ง 3 รูปแบบ ล้อ ราง เรือ ที่เชื่อมกันอย่างราบรื่น รวมถึงความ Smart ของการใช้บริการบริเวณท่าเรือ ที่เชื่อมต่อกับ Smart Phone หรือ บัตร HOP เข้ากับยุคสังคมไร้เงินสด พร้อมพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ณ ท่าเรือท่าช้าง ที่ปรับปรุงและพัฒนาขึ้น ภายใต้แนวคิด “ท่าเรือ ที่เป็นมากกว่าท่าเรือ” และเป็นท่าเรือ ที่สร้างขึ้นบนพื้นที่ประวัติศาสตร์ สามารถเชื่อมต่อการเดินทางสู่ระบบขนส่งสาธารณะต่าง ๆ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ และพื้นที่ใกล้เคียง ที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยว ใช้ในการเดินทางทางน้ำ เป็นจำนวนมาก อาทิ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง อุโมงค์มหาราช วัดระฆังโฆสิตารามฯ ท่าน้ำศิริราช (วังหลัง) ฯ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือสาทร และท่าเรือท่าช้าง จะสามารถรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จากการเปิดประเทศและการเปิดภาคการศึกษา ในช่วงต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา

 

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้