“สดช.” จับมือ “กรมราชทัณฑ์” ร่วมพัฒนาองค์ความรู้ด้านดิจิทัล นำร่อง 2 เรือนจำ

281 จำนวนผู้เข้าชม  | 

“สดช.” จับมือ “กรมราชทัณฑ์” ร่วมพัฒนาองค์ความรู้ด้านดิจิทัล นำร่อง 2 เรือนจำ

นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) พร้อมด้วย นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมผู้ต้องขังในเรือนจำ



โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ต้องขังให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล นำร่อง 2 เรือนจำ ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่และเรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา โดยความร่วมมือระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกรมราชทัณฑ์ นำร่อง 2 เรือนจำ ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่และเรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา



          นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) เปิดเผยวันนี้ (8 มี.ค. 65) ว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อผลักดันการพัฒนาบุคลากร ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ ดังจะเห็นได้จากการที่ภาครัฐมีการวางโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความรอบรู้สามารถเข้าถึงพัฒนาและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างรู้เท่าทัน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคมสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม



          “ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่อง และยังมีผลต่อการปรับ และเปลี่ยน ไลฟ์สไตล์ของวิถีชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการทำงาน ในปัจจุบัน ที่ต้องมีการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัลตลอดเวลา และทันต่อสถานการณ์ ดังนั้นทาง สดช. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาองค์ความรู้ในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญพื้นฐานในการพัฒนาด้านบุคลากรในทุกภาคส่วน”นายภุชพงค์กล่าว

 

          ด้านนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์มีนโยบายในด้านการควบคุมดูแลและการแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง รวมถึงการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล และของกระทรวงยุติธรรมให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ตามนโยบาย “ลดความแออัดในเรือนจำ ป้องกันการกระทำผิดซ้ำ สร้างโอกาสกลับสู่สังคม พัฒนาสิทธิผู้ต้องขัง พัฒนาบุคลากร นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้แก้ไขปัญหาทุจริตในระบบราชทัณฑ์” ดังนั้นการดูแลผู้ต้องขัง นอกจากด้านความประพฤติแล้ว การพัฒนาทักษะความรู้ต่างๆ ที่จำเป็นภายหลังจากพ้นโทษ จะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพื่อลดปัญหาการกระทำผิดซ้ำ



       “การสร้างองค์ความรู้ นำเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาอบรมและฝึกวิชาชีพผู้ต้องขัง เพื่อให้ผู้ต้องขังได้นำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน สร้างอาชีพได้ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีภายหลังจากพ้นโทษ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ นำร่อง 2 เรือนจำ คือทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่และเรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเรือนจำที่มีศักยภาพและความพร้อมในด้านบุคลากรและเครื่องมือ และทางกรมฯจะพิจารณาขยายการอบรมดังกล่าวไปยังเรือนจำอื่นต่อไป” นายอายุตม์กล่าว



 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้