“อมตะ”แจ้งความจับแก๊งต้มตุ๋นใช้ชื่อ-โลโก้ลวงคนลงทุน เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อเผยเตรียมคำเนินคดีถึงที่สุด

229 จำนวนผู้เข้าชม  | 

“อมตะ”แจ้งความจับแก๊งต้มตุ๋นใช้ชื่อ-โลโก้ลวงคนลงทุน เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อเผยเตรียมคำเนินคดีถึงที่สุด

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) AMATA เปิดเผยว่า อมตะได้รับการแจ้งเรื่องมีผู้แอบอ้างใช้ชื่อ “บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน)” “บริษัท อมตะ วี เอ็น  จำกัด (มหาชน)” และ บริษัทในกลุ่มบริษัท อมตะ รวมถึงตราสัญลักษณ์ (โลโก้) ภาพผู้บริหาร และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ไปใช้หลอกลวงชักชวนคนให้ลงทุนในกองทุนเทรดหุ้นระยะสั้นผ่านช่องทาง Line Official เพจ Facebook ที่แอบอ้างตั้งขึ้นในชื่อต่างๆ ซึ่งให้ผลตอบแทนระยะสั้นอยู่ที่ 30-70% ของจำนวนเงินลงทุน ส่งผลให้มีผู้ถูกหลอกลวงและได้รับความเสียหายหลายรายรวมมูลค่านับล้านบาท อมตะจึงได้ดำเนินการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวและต้องการนำตัวผู้กระทำผิดรวมถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาลงโทษตามกฎหมายขั้นสูงสุด

“ทั้งนี้บริษัทฯ ขอแจ้งเตือนไปยังกลุ่มผู้ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ( ตลท.) คู่ค้า และประชาชนทั่วไปให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพนี้ได้มีการปลอมแปลงเอกสารเพื่อนำไปแอบอ้าง อาทิ บัตรพนักงาน ใบแจ้งหนี้ หนังสือจดทะเบียนพาณิชย์ ฯลฯ รวมถึงนำภาพโลโก้ของอมตะใช้เป็นภาพหน้าโปรไฟล์สื่อที่ใช้หลอกลวงประชาชนให้เข้าร่วมลงทุน บริษัทฯ ขอยืนยันว่าอมตะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำใดๆ ในลักษณะดังกล่าว” นายวิบูลย์ กล่าว

โดยพฤติการณ์การหลอกลวงของกลุ่มมิจฉาชีพจะดำเนินการโปรโมทโฆษณาบนหน้า Facebook รวมถึงส่งไลน์ทักหาบุคคลเป้าหมายและส่งลิงค์เชิญชวนให้เข้าร่วมลงทุนโดยอ้างว่ามีผลกำไรตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้นภายใน 5-10 นาทีสามารถถอนเงินออกได้จริงโดยให้คลิกลิงค์เข้าสู่เว็บไซต์ https://bs.321589.com/index/login/register.html และอื่นๆ จากนั้นจะให้ผู้ถูกหลอกลวงกรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อดำเนินการเปิดพอร์ตเข้าร่วมลงทุน ให้ผูกบัญชีธนาคารเข้ากับเว็บไซต์ดังกล่าว และให้ดำเนินการเติมเงินเข้าสู่ระบบโดยมีเงื่อนไขลงทุนขั้นต่ำ 500 – 1,000 บาทมีการการันตีผลตอบแทนที่จะมีกำไรจากการลงทุนได้มูลค่าหลักแสนถึงหลักล้านบาท เพียงทำตามขั้นตอนมีเจ้าหน้าที่แนะนำ เมื่อได้กำไรจากการลงทุนหากต้องการถอนเงินออกจากระบบผู้ลงทุนจะต้องจ่ายภาษีรายได้จำนวน 15 % ของเงินยอดเงินทั้งหมดที่ได้รับ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการหลอกลวงและผู้ลงทุนไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้จริงตามที่กลุ่มมิจฉาชีพกล่าวอ้าง

นายวิบูลย์ กล่าวย้ำอีกว่า หากประชาชนที่ถูกหลอกลวงและฉ้อโกงจากมิจฉาชีพกลุ่มดังกล่าวโดยการโอนเงินผ่านระบบธนาคารต่างๆ ควรเร่งดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตรง เพื่อให้มีการออกเอกสารใบแจ้งความนำไปยืนยันความเสียหายกับธนาคารที่ได้ทำธุรกรรมไว้ เพื่อทำการอายัดบัญชี ป้องกันการโอนเงินไปยังปลายทางยับยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อไป

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้