ร.ย.ส.ท.เตรียมยกระดับมอเตอร์สปอร์ตไทย

356 จำนวนผู้เข้าชม  | 

พฤฒิรัตน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์

         พฤฒิรัตน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ประธานคณะกรรมการกีฬายานยนต์  ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (ร.ย.ส.ท.) หรือ RAAT เปิดเผยถึงนโยบายและทิศทางการดำเนินงานว่า ทางสมาคมฯ ได้วางกรอบแนวทาง การพัฒนา ศักยภาพของกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย สู่ความยั่งยืน สอดรับนโยบาย  ” Sport tourism ” ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไว้ในหลายมิติ เนื่องจากกีฬาแข่งรถนั้นนอกจากจะเป็นอีกกิจกรรมที่สามารถสร้างเสน่ห์และเม็ดเงินรายได้ให้กับการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้ในระดับสูงแล้วนั้น ยังมีความเชื่อมโยงสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลกในปัจจุบันนี้   

          “ความเชื่อมโยงสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นประเด็นที่คณะกรรมการที่มีคุณสนธยา คุณปลื้ม ในฐานะนายกสมาคมฯ  ให้ความสนใจ เพราะประเทศไทยเป็นอีกฐานผลิตสำคัญอีกแห่งของโลก ที่มีเม็ดเงินในระบบธุรกิจมากกว่า 1 ล้านล้านบาทในแต่ละปี  ในอนาคตมีโอกาสสูงที่ บรรดาผู้ผลิตทั้งรถและชิ้นส่วน อย่างเช่นค่ายยางรถยนต์จะหันมาให้ความสนใจและส่งเสริมด้านมอเตอร์สปอร์ต เหมือนกับในต่างประเทศที่รถยนต์และมอเตอร์สปอร์ตจะมีกิจกรรมเชื่อมโยงกันมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามด้วยความที่ประเทศไทยเป็นในรูปแบบผู้ประกอบรถ ไม่ใช่แบรนด์ผู้ผลิตโดยตรง การให้ความสำคัญด้านมอเตอร์สปอร์ตในปัจจุบันจึงมีไม่มากนัก แต่ในอนาคตเมื่อรูปแบบการแข่งขันมีความชัดเจน มีการพัฒนามากขึ้น ก็น่าจะเป็นปัจจัยที่กลุ่มบริษัทรถและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง จะหันมาให้ความสำคัญกับมอเตอร์สปอร์ต เมื่อเราทำให้เค้าเห็นว่ามันส่งผลดีต่อแบรนด์ของเค้า ที่เห็นชัดเจนในปัจจุบันคือโตโยต้าที่ยืนหนึ่งในด้านนี้ แต่เรายังหวังจะให้มีแบรนด์อื่นๆเกิดขึ้นตามมา แต่การจะเกิดจุดนั้นได้ คือภาพของความเป็นทีมแข่งที่มีศักยภาพในจำนวนที่มากขึ้น รวมถึงการตอบรับของผู้ชมที่มากขึ้น แน่นอนว่ามันก็เชื่อมโยงสู่การพัฒนาให้เกมกีฬานี้เดินหน้าสู่การเป็นกีฬาอาชีพนั่นเอง และสามารถสร้างผลผลิตสู่นักแข่งชั้นนำ เกิดเป็นนักกีฬาอาชีพ แล้วสร้างให้นักกีฬาเหล่านี้เติบโต ต่อยอดไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ไปสู่จุดสูงสุดในอาชีพของเค้า และไปถึงระดับโลกอย่างเช่น เอส นราศักดิ์ อิทธิริทพงษ์ ที่ได้รับเชิญให้ร่วมแข่งขันในรายการ เวิลด์แรลลี่แชม เปี้ยนชิพ ในปี 2022 เป็นต้น “

          นายพฤฒิรัตน์ กล่าวต่อไปว่าสำหรับแผนงานเบื้องต้นนั้นคือเร่งยกระดับศักยภาพบุคคลากรที่เกี่ยวข้องกับกีฬายานยนต์ เช่น นักแข่ง ทีมแข่ง และกรรมการผู้ตัดสินชาวไทยให้ก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างให้การแข่งขันรถเป็นกีฬาอาชีพ เนื่องจาก ที่ผ่านมายังไม่มีการผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง ในฐานะที่เข้ามาบริหารงานในจุดนี้ อย่างหนึ่งที่ให้ความสำคัญคือเรื่องนี้ โดยเริ่มจากการวางเกณฑ์ก่อน อาทิด้านระเบียบการแข่งขัน ตัวนักกีฬา รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ องค์กรการจัดแข่งขันที่ต้องเป็นมืออาชีพ นักแข่งและทีมก็ต้องเป็นมืออาชีพเช่นกัน ซึ่งอาจเหมือนกับการนับหนึ่งอีกครั้ง แต่จะส่งผลดีต่อภาพรวมของกีฬามอเตอร์สปอร์ตในอนาคต

          “ นักแข่งบางคนก็ไม่รู้ว่าสามารถทำเป็นกีฬาอาชีพได้ หรือได้รับการส่งเสริมอย่างไรบ้าง นั่นเพราะยังไม่มีการสื่อสารชัดเจนออกมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสู่วงกว้าง จะมีเฉพาะกลุ่มที่รู้ถึงนโยบายนี้ เราจึงพยายามทำเต็มที่และพัฒนากีฬานี้ให้ได้มาตรฐานยิ่งขึ้น พัฒนาบุคคลากรให้ได้มาตรฐานเช่นกัน และเมื่อมันทุกอย่างเติบโตไปพร้อมๆกัน มันจะเกิดเป็นความยั่งยืนในอนาคต ที่ผ่านมากีฬาประเภทนี้ถูกมองว่าเป็นเกมกีฬาของบุคคลเฉพาะกลุ่ม กลุ่มคนที่มีเงิน ซึ่งมื่อเราพัฒนาและสร้างให้เป็นกีฬาอาชีพได้อย่างจริงจัง อนาคตก็จะมีการสนับสนุนจากกลุ่มสปอนเซอร์ เข้ามามากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นก็กลับไปสู่วงจรเดิมคือ คนที่มีเงินเท่านั้นที่จะได้เข้าร่วมแข่งขัน หลักของกีฬาอาชีพคือต้องเป็นอาชีพที่เลี้ยงตัวเองได้

          พร้อมกันนี้ ในปีนี้จะเป็นปีแรกที่ทางสมาคมฯได้เตรียมจัดการแข่งขัน แรลลี่ชิงแชมป์ประเทศไทย ในรายการ RAAT Thailand Rally Championship 2021 ชิงถ้วยพระราชทาน ซึ่งรายการดังกล่าวนี้เป็นอีกตัวอย่างของการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ไทย โดยสมาคมฯได้นำเสนอรูปแบบการจัดแข่ง ภายใต้แนวคิดการจัดในลักษณะแรลลี่ปิด ซึ่งหมายถึงไม่ใช้ถนนสาธารณะ หรือไลน์การขับที่ไม่ไปรบกวนผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณนั้น อีกทั้งจะต้องไม่ไปสร้างปัญหาหรือมลพิษ พอลลูชั่นให้คนท้องถิ่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียง หรือฝุ่นก็ตาม ฉะนั้นแรลลี่ปิดจึงเป็นแนวคิดใหม่ที่จะเกิดขึ้น ทางคณะทำงานจึงได้ทำการสำรวจพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่เพียงพอรองรับแนวคิดดังกล่าว ซึ่งมีทั้งพื้นที่ของเอกชนและหน่วยงานรัฐ โดยเบื้องต้นนั้นต้องมีระยะทางและรูปแบบที่เป็นไปตามกฎของ ร.ย.ส.ท. โดยจัดทั้งสิ้น 3 ครั้ง เริ่มสนามแรกวันที่ 23-24 เดือนตุลาคม ศกนี้ ที่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี  สนามที่ 2 ในวันที่ 27-28 พฤศจิกายน ที่จ.ราชบุรี และจบสนามสุดท้ายในวันที่ 18-19 ธันวาคม จ.ฉะเชิงเทรา แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 รุ่น ประกอบด้วย 1.Rally Category 1: Super 2WD ( Super 1600, Super 1500, Super 1300 ) , 2.Rally Category 2: Super 4WD, Super 2000 2WD และ รุ่นที่ 3 Classic Car Class 1/2/3





           นอกจากนี้ ทางสมาคมฯได้เตรียม จัดการแข่งขันรายการยานยนต์ทางเรียบมาราธอน RAAT Thailand Endurance Championship International 2021  เพื่อสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทย ให้เป็นที่แพร่หลายยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน ณ สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต โดยสนามแรกจะจัดขึ้นในวันที่ 19-20 เดือนพฤศจิกายน และสนามที่ 2 วันที่ 10-11 ธันวาคม ส่วนสนามที่ 3 จัดขึ้นในวันที่ 12 ธันวาคมศกนี้ แบ่งรุ่นการแข่งขันออกเป็น 5 ประเภทหลัก ประกอบด้วย 1 รุ่น Eco (Overall) ,2 รุ่น Compact :  1200 Turbo, 1500-1600 cc, 3 รุ่น Touring Car: 1500-1600 cc Turbo,2000 cc, 4 รุ่น Toyota One Make Race และ 5 รุ่น Toyota Vios One Make Race Lady

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้